500 Internal Server Error คืออะไร แก้ไขอย่างไรให้เว็บไซต์กลับมาทำงานปกติ

500 Internal Server Error คืออะไร
Spread the love

ทำความเข้าใจเบื้องต้นกับปัญหา 500 Internal Server Error

เมื่อคุณเปิดหน้าเว็บไซต์แล้วพบข้อความว่า 500 Internal Server Error ไม่ต้องตกใจ นี่เป็นปัญหาทั่วไปที่มักเกิดขึ้นในระบบเว็บเซิร์ฟเวอร์ทั่วโลก โดยเฉพาะกับเว็บไซต์ที่ใช้ระบบ CMS อย่าง WordPress, Joomla, Drupal หรือ Magento ความผิดพลาดนี้แสดงว่าเซิร์ฟเวอร์ไม่สามารถประมวลผลคำขอได้ แม้ว่าจะเข้าใจคำขอจากเบราว์เซอร์ของผู้ใช้ก็ตาม

แม้ข้อความจะดูเหมือนทั่วไป แต่เบื้องหลังของมันอาจแฝงไว้ด้วยความซับซ้อน ตั้งแต่ปัญหาของไฟล์โค้ด, ปลั๊กอิน, ฐานข้อมูล ไปจนถึงทรัพยากรเซิร์ฟเวอร์

ความหมายเชิงเทคนิคของ 500 Internal Server Error

รหัสสถานะ HTTP และบทบาทของ 500

รหัสสถานะ HTTP หรือ “HTTP Status Code” คือสิ่งที่เบราว์เซอร์และเซิร์ฟเวอร์ใช้ในการสื่อสารกัน เมื่อมีบางอย่างผิดพลาด รหัส 5xx จะแสดงว่าเซิร์ฟเวอร์เป็นฝ่ายผิดพลาด โดยรหัส 500 เป็นรหัสที่บ่งชี้ว่าเกิดข้อผิดพลาดภายในเซิร์ฟเวอร์อย่างไม่เฉพาะเจาะจง

ลักษณะของ 500 Internal Server Error

  • ผู้ใช้จะเห็นหน้าข้อความแสดงข้อผิดพลาด

  • เว็บไซต์ไม่โหลดหรือโหลดได้บางส่วน

  • ไม่สามารถเข้าถึง Dashboard ใน CMS ได้

  • อาจเกิดขึ้นเฉพาะบางเพจเท่านั้น

สาเหตุที่ทำให้เกิด 500 Internal Server Error

เพื่อให้เข้าใจปัญหานี้อย่างถ่องแท้ จำเป็นต้องเจาะลึกถึงสาเหตุที่พบบ่อยที่สุด:

ไฟล์ .htaccess ผิดพลาด

ความสำคัญของไฟล์ .htaccess

.htaccess เป็นไฟล์ควบคุมการเข้าถึงและกำหนดเงื่อนไขการทำงานของเว็บไซต์ เช่น การเปลี่ยนเส้นทาง (Redirects), เปิดใช้งาน SSL, และการ Rewrite URLs หากโค้ดในไฟล์นี้ผิด แม้เพียง 1 ตัวอักษร ก็อาจทำให้เกิด 500 Error ได้ทันที

ตัวอย่างโค้ดผิดพลาดที่พบบ่อย

RewriteEngine On
RewriteCond %{HTTP_HOST} ^www.yoursite.com$
RewriteRule ^(.*)$ http://yoursite.com/$1 [R=301,L]

ถ้าโค้ดข้างต้นมีการพิมพ์ผิดหรือเว้นบรรทัดผิด จะส่งผลให้เซิร์ฟเวอร์ไม่เข้าใจคำสั่ง

ปลั๊กอินหรือธีมผิดพลาด (เฉพาะ WordPress)

  • ปลั๊กอินที่ไม่อัปเดตตามเวอร์ชัน WordPress

  • ธีมที่มีไฟล์ฟังก์ชัน (functions.php) ผิดพลาด

  • มีการเรียกฟังก์ชันที่ไม่มีอยู่จริง

ปัญหาการเชื่อมต่อฐานข้อมูล (Database Error)

  • การเชื่อมต่อกับฐานข้อมูล MySQL ล้มเหลว

  • ไฟล์ wp-config.php กำหนดค่าผิด

  • ฐานข้อมูลล่มชั่วคราว

สิทธิ์ของไฟล์และโฟลเดอร์ผิด (Permission Denied)

  • ไฟล์ควรมี permission เป็น 644

  • โฟลเดอร์ควรมี permission เป็น 755

  • หากตั้งเป็น 777 จะเสี่ยงต่อการถูกโจมตี และอาจทำให้เกิด error ได้

สคริปต์ PHP มีบั๊กหรือหมดเวลา

  • การวนลูปแบบไม่สิ้นสุด (infinite loop)

  • ใช้ memory มากเกินขนาดที่เซิร์ฟเวอร์รองรับ

  • มีข้อผิดพลาดในโค้ดที่ไม่ถูกจับ (Uncaught Error)

วิธีแก้ไข 500 Internal Server Error อย่างมืออาชีพ

ขั้นตอนพื้นฐานที่ควรลองก่อน

ล้าง Cache และ Reload

  • ล้าง cache เบราว์เซอร์

  • กด Ctrl + F5 เพื่อโหลดใหม่

  • ลองเข้าเว็บไซต์จากเครื่องอื่น

ตรวจสอบสถานะโฮสติ้ง

  • เซิร์ฟเวอร์อาจล่มหรือติด maintenance

  • ติดต่อโฮสติ้งเพื่อสอบถามสถานะ

ตรวจสอบไฟล์ .htaccess

  1. เข้าไปที่ root folder ของเว็บไซต์ผ่าน FTP หรือ File Manager

  2. เปลี่ยนชื่อไฟล์ .htaccess เป็น .htaccess_backup

  3. ลองโหลดเว็บไซต์ใหม่อีกครั้ง

  4. ถ้าใช้ WordPress ให้เข้า Dashboard > Settings > Permalinks แล้วกด “Save” เพื่อสร้างไฟล์ใหม่

ปิดปลั๊กอินทั้งหมด (WordPress)

  1. เข้าไปที่ wp-content

  2. เปลี่ยนชื่อโฟลเดอร์ plugins เป็น plugins_backup

  3. ลองโหลดเว็บไซต์ใหม่

  4. ถ้าหาย ให้เปลี่ยนชื่อกลับ แล้วค่อย ๆ เปิดแต่ละปลั๊กอินจนเจอปลั๊กอินที่ทำให้เกิด error

ตรวจสอบ Error Log

วิธีดู Log จากโฮสติ้งยอดนิยม

  • DirectAdmin: Logs → Error Logs

  • cPanel: Errors หรือ Raw Access Logs

  • Plesk: Logs → Apache Error Log

ตัวอย่างข้อความ Error

PHP Fatal error: Uncaught Error: Call to undefined function...

ข้อความเหล่านี้จะช่วยบอกตำแหน่งไฟล์และบรรทัดที่ผิดพลาดได้อย่างแม่นยำ

ตรวจสอบสิทธิ์ของไฟล์และโฟลเดอร์

ประเภท ค่าที่แนะนำ
ไฟล์ 644
โฟลเดอร์ 755
อย่าใช้ 777 (ไม่ปลอดภัย)

เพิ่ม Memory Limit

วิธีแก้ไขผ่าน wp-config.php

define('WP_MEMORY_LIMIT', '256M');

วิธีแก้ไขผ่าน .htaccess

php_value memory_limit 256M

วิธีป้องกันไม่ให้เกิด 500 Internal Server Error ในอนาคต

ใช้ปลั๊กอินและธีมจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ

  • หลีกเลี่ยงธีมหรือปลั๊กอินที่ไม่มีการอัปเดต

  • เลือกผู้พัฒนาที่มีรีวิวดีและการซัพพอร์ต

สำรองข้อมูลเว็บไซต์สม่ำเสมอ

  • ใช้ปลั๊กอินสำรองข้อมูล เช่น UpdraftPlus, Duplicator

  • ตั้งระบบ backup อัตโนมัติรายสัปดาห์หรือรายวัน

อัปเดต PHP และ CMS อย่างสม่ำเสมอ

  • เลือกเวอร์ชัน PHP ที่เสถียรและรองรับ CMS

  • อัปเดต WordPress / Joomla / Drupal ตามเวอร์ชันล่าสุด

เมื่อไรควรขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ

กรณีที่คุณควรพิจารณาจ้างผู้เชี่ยวชาญ

  • เว็บไซต์เป็นแหล่งรายได้หลัก เช่น E-commerce

  • ปัญหาเกิดซ้ำแม้แก้ไขแล้ว

  • ไม่สามารถเข้า FTP หรือระบบจัดการโฮสต์ได้

สรุป: กู้เว็บไซต์กลับมาได้ง่ายกว่าที่คิด

500 Internal Server Error อาจฟังดูน่ากลัว แต่ถ้าคุณมีแนวทางตรวจสอบอย่างเป็นระบบก็สามารถแก้ไขได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นการเช็กไฟล์ .htaccess, ปิดปลั๊กอิน, ตรวจ error logs หรือเพิ่ม memory limit สิ่งสำคัญคือการมีระบบสำรองข้อมูลและการบำรุงรักษาเว็บไซต์อย่างสม่ำเสมอ เพื่อไม่ให้ปัญหานี้กลับมาสร้างความปั่นป่วนอีกในอนาคต

หากคุณดูแลเว็บไซต์ WordPress อยู่ อย่าลืมทำตามคำแนะนำ การ สอน WordPress ในบทความนี้ให้ครบ!

เพราะธรรมชาติรู้ดีที่สุด — Pipat Skin เลือกใช้ ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ครีมเปลือกมังคุด (Mangosteen Acne Cream) ผสานสมุนไพรธรรมชาติ เพื่อดูแลผิวคุณอย่างอ่อนโยนทุกวัน

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *