ข้อความ “Autoloaded options could affect performance” ใน WordPress หมายถึง มี options (ข้อมูลที่เก็บในตาราง wp_options
) ที่ถูกตั้งให้ autoload = yes เป็นจำนวนมากหรือมีขนาดใหญ่เกินไป ซึ่งอาจโหลดทุกครั้งที่ WordPress ทำงาน ส่งผลให้เว็บไซต์ช้าลง
Autoloaded Options คืออะไร และเหตุใดจึงกระทบความเร็วเว็บไซต์?
ในระบบของ WordPress ทุกครั้งที่มีการโหลดหน้าเว็บ ระบบจะดึงค่าต่าง ๆ จากฐานข้อมูลตาราง wp_options
โดยเฉพาะค่าที่ถูกตั้งให้ autoload = yes หรือที่เรียกว่า autoloaded options ซึ่งเป็นการโหลดข้อมูลอัตโนมัติเมื่อ WordPress ทำงาน ไม่ว่าจะเป็น:
-
การตั้งค่าของธีมและปลั๊กอิน
-
ค่าคอนฟิกภายใน
-
ข้อมูลแคชที่ถูกเก็บไว้
หากมีค่า autoloaded options จำนวนมากหรือมีขนาดใหญ่เกินไป จะกลายเป็นภาระต่อการโหลดเว็บไซต์ทุกครั้ง ทำให้เว็บไซต์ช้าลง หรือกระทั่งโหลดไม่ขึ้นในบางกรณี
ปัญหาที่เกิดจาก Autoloaded Options ที่ไม่เหมาะสม
สาเหตุหลักของการสะสม options
-
ปลั๊กอินที่เก็บข้อมูลไว้ใน
wp_options
โดยไม่ได้ล้างออกเมื่อยกเลิกการใช้งาน -
ธีมที่เขียนโค้ดให้ autoload ทุกการตั้งค่าทั้งที่ไม่จำเป็น
-
การใช้ปลั๊กอินจำนวนมากพร้อมกัน โดยไม่คัดกรองประสิทธิภาพ
-
ปลั๊กอินที่สร้างค่าชั่วคราว (transients) แล้วไม่ลบทิ้ง
ผลกระทบระยะยาว
-
การโหลดหน้าเว็บช้าลง
-
ใช้หน่วยความจำของเซิร์ฟเวอร์มากขึ้น (Memory Usage สูง)
-
เสี่ยงต่อการเกิด “Timeout Error” หรือ “White Screen”
-
Google PageSpeed ชี้ว่าเว็บไซต์โหลดช้า กระทบ SEO โดยตรง
วิธีการตรวจสอบ Autoloaded Options อย่างถูกต้อง
ใช้ SQL Query ผ่าน phpMyAdmin หรือ Adminer
คำสั่งที่นิยมใช้มากที่สุด
SELECT option_name, LENGTH(option_value) AS size
FROM wp_options
WHERE autoload = 'yes'
ORDER BY size DESC
LIMIT 50;
-
ช่วยระบุว่า option ใดใหญ่ที่สุด
-
ตรวจสอบว่า option นั้นจำเป็นต้อง autoload หรือไม่
ตัวอย่างผลลัพธ์ที่ควรให้ความสนใจ
-
_transient_
หรือ_site_transient_
มีขนาดใหญ่เกิน 500 KB -
ค่า
plugin_settings
จากปลั๊กอินที่เลิกใช้ไปแล้ว -
Options ที่ขึ้นต้นด้วย
wp_session_
หรือtemp_
ใช้ WP-CLI สำหรับผู้ที่เข้าถึง SSH ได้
wp option list --autoload=on --fields=option_name,autoload --format=csv
-
เหมาะกับนักพัฒนา
-
ส่งออกไปตรวจสอบเพิ่มเติมใน Excel หรือ Google Sheets ได้
วิธีลดจำนวน Autoloaded Options อย่างปลอดภัย
ตรวจสอบก่อนลบ: ทำไมต้องระมัดระวัง?
ค่าบางค่าเกี่ยวข้องกับระบบหลัก หากลบผิดอาจทำให้เว็บไซต์ใช้งานไม่ได้ เช่น:
-
siteurl
-
home
-
active_plugins
-
template
ขั้นตอนที่แนะนำในการจัดการ autoload
1. สำรองข้อมูลฐานข้อมูล (Backup) ก่อนทุกครั้ง
-
ใช้ปลั๊กอินเช่น UpdraftPlus, Duplicator หรือ All-in-One WP Migration
-
หรือใช้ phpMyAdmin ทำการ export ตาราง
wp_options
2. ปิดการ autoload (เปลี่ยนจาก yes เป็น no)
UPDATE wp_options
SET autoload = 'no'
WHERE option_name = 'ชื่อ_option';
ใช้สำหรับ option ที่ไม่จำเป็นต้อง autoload แต่ไม่ต้องการลบทิ้ง
3. ลบ options ที่ไม่ใช้งานแล้ว
DELETE FROM wp_options
WHERE option_name = 'ชื่อ_option';
4. ใช้ปลั๊กอินช่วยตรวจจับและจัดการ
-
Advanced Database Cleaner
เครื่องมือทรงพลังที่ช่วยวิเคราะห์และลบ options ที่ไม่ได้ใช้ -
WP-Optimize
ช่วยลดขนาดฐานข้อมูล ปิด autoload ได้ -
Plugins Garbage Collector
เจาะลึก options ที่มาจากปลั๊กอินที่ถูกลบไปแล้ว
แนวทางป้องกัน Autoloaded Options เกินความจำเป็น
พฤติกรรมที่ควรหลีกเลี่ยงในการพัฒนาเว็บไซต์
-
ติดตั้งปลั๊กอินจำนวนมากโดยไม่จำเป็น
-
ปล่อยให้ปลั๊กอินที่ไม่ใช้ยังคงอยู่ในระบบ
-
ใช้ธีมหรือปลั๊กอินจากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ (Null theme/plugin)
แนวทางเชิงรุกที่แนะนำ
สำหรับผู้ดูแลเว็บไซต์
-
ตรวจสอบค่าขนาดรวมของ autoloaded options ทุก 3 เดือน
-
หากขนาดรวม > 900 KB ให้เริ่มวิเคราะห์รายการ autoload ที่กินพื้นที่มากที่สุด
สำหรับนักพัฒนา
-
ตั้งค่า
autoload = no
ให้กับ options ที่ไม่ต้องโหลดในทุกหน้า -
ใช้ Transient API อย่างถูกวิธี และให้กำหนดเวลาหมดอายุ (expiration)
วิเคราะห์ประสิทธิภาพ autoload ด้วยแนวทาง Data-Driven
ข้อมูลจากการวัดประสิทธิภาพจริง
ขนาด Autoload | ผลกระทบต่อความเร็ว |
---|---|
< 500 KB | โหลดไว ไม่มีผลกระทบ |
500 – 900 KB | เริ่มช้าลง 10–15% |
> 1 MB | มีผลต่อทั้ง TTFB และ FCP |
> 2 MB | เว็บไซต์อาจแสดงผลล่าช้าอย่างมาก หรือ Timeout |
กรณีศึกษา: แก้ autoload แล้วเว็บโหลดเร็วขึ้นจริงหรือไม่?
กรณีศึกษา A – เว็บขายของ WooCommerce
-
ก่อนแก้:
autoload
รวม 1.8 MB, โหลดหน้าแรก 6.2 วินาที -
หลังแก้: ปรับ autoload เหลือ 600 KB, โหลดเร็วขึ้นเหลือ 2.9 วินาที
-
วิธีที่ใช้: ลบ option ของปลั๊กอินที่เลิกใช้ไป, ปิด autoload ค่าชั่วคราว
กรณีศึกษา B – เว็บบริษัททั่วไป
-
ปัญหาเกิดจากการใช้ธีมที่บันทึกค่าทุกการตั้งค่าเป็น autoload
-
ปรับโค้ดธีม + ใช้ WP-Optimize
-
ผลลัพธ์: Google PageSpeed เพิ่มจาก 58 → 91 (Mobile)
คำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับ Autoloaded Options
Q: ขนาดรวมของ autoload ควรไม่เกินเท่าไหร่?
A: แนะนำไม่เกิน 900 KB สำหรับ shared hosting และไม่เกิน 1 MB บน VPS
Q: ลบ options ผิดทำให้เว็บพัง แก้ยังไง?
A: กู้คืนฐานข้อมูลจาก Backup, หรือเข้า phpMyAdmin แก้ไขด้วยมือ
Q: ปลั๊กอินใดเหมาะกับมือใหม่?
A: WP-Optimize เหมาะกับมือใหม่ ใช้งานง่าย ปลอดภัย
สรุปแนวทางปฏิบัติที่แนะนำ
Checklist: จัดการ Autoload อย่างมืออาชีพ
✅ สิ่งที่ควรทำ
-
ตรวจสอบขนาดของ autoloaded options ทุกไตรมาส
-
ใช้ปลั๊กอินช่วยตรวจสอบ options ที่ไม่ได้ใช้งาน
-
ปิด autoload สำหรับค่า config ที่ไม่จำเป็นต้องโหลดทุกหน้า
❌ สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง
-
ลบ options โดยไม่ตรวจสอบก่อน
-
ใช้ธีมหรือปลั๊กอินที่ไม่ผ่านการทดสอบ
-
ติดตั้ง plugin จำนวนมากเพียงเพราะ “ฟรี”
สร้าง WordPress ที่ลื่นไหล ด้วยการบริหาร Autoload อย่างถูกวิธี
การจัดการ Autoloaded Options อย่างถูกต้อง คือหัวใจสำคัญของการเพิ่มประสิทธิภาพเว็บไซต์ WordPress โดยเฉพาะในยุคที่ความเร็วของเว็บไซต์ส่งผลโดยตรงต่อ SEO, Conversion Rate, และ ประสบการณ์ผู้ใช้งาน (UX)
หากคุณกำลังเผชิญปัญหาเว็บไซต์โหลดช้า อย่ามองข้าม autoload options เพราะการปรับจุดเล็กนี้อาจเปลี่ยนเว็บไซต์ของคุณให้กลับมาทำงานได้อย่างคล่องตัวอีกครั้งในพริบตา
หากคุณดูแลเว็บไซต์ WordPress อยู่ อย่าลืมทำตามคำแนะนำ การ สอน WordPress ในบทความนี้ให้ครบ!
เพราะธรรมชาติรู้ดีที่สุด — Pipat Skin เลือกใช้ ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ครีมเปลือกมังคุด (Mangosteen Acne Cream) ผสานสมุนไพรธรรมชาติ เพื่อดูแลผิวคุณอย่างอ่อนโยนทุกวัน