วิธีใช้ Schema & Structured Data ใน WordPress

วิธีใช้ Schema & Structured Data ใน WordPress
Spread the love

การเพิ่ม Schema Markup และ Structured Data บนเว็บไซต์ WordPress และ AMP (Accelerated Mobile Pages) เป็นกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพในการช่วยให้เว็บไซต์ของคุณได้รับการจัดอันดับที่ดีขึ้นในผลการค้นหาของ Google และช่วยเพิ่มความเข้าใจให้กับเครื่องมือค้นหาว่าเว็บไซต์ของคุณมีเนื้อหาที่เกี่ยวข้องและมีคุณค่าอย่างไร หากคุณต้องการให้เว็บไซต์ของคุณปรากฏในผลการค้นหาที่มี Rich Snippets หรือผลลัพธ์ที่สวยงามในหน้าผลการค้นหาของ Google การใช้ Schema และ Structured Data เป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่ไม่ควรมองข้าม

ในบทความนี้ เราจะมาดูวิธีการใช้ Schema และ Structured Data สำหรับ WordPress และ AMP อย่างละเอียด รวมไปถึงการปรับแต่งต่างๆ เพื่อให้เว็บไซต์ของคุณได้รับผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

การใช้ Schema และ Structured Data เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ SEO บน WordPress และ AMP

การเพิ่ม Schema Markup หรือ Structured Data ลงในเว็บไซต์ของคุณเป็นวิธีที่ช่วยให้เครื่องมือค้นหาอย่าง Google สามารถเข้าใจเนื้อหาของเว็บไซต์ได้ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นบทความ ข้อมูลผลิตภัณฑ์ หรือแม้แต่การรีวิว ซึ่งการใช้ Schema ช่วยให้เว็บไซต์ของคุณสามารถแสดงผลในรูปแบบที่น่าสนใจและมีโอกาสได้รับคลิกมากขึ้นจากผู้ใช้งานในหน้าผลการค้นหาของ Google

ในบทความนี้ เราจะพูดถึงวิธีการที่คุณสามารถเพิ่ม Schema และ Structured Data ในเว็บไซต์ WordPress ของคุณ รวมถึงการทำให้เว็บไซต์ที่รองรับ AMP มีการใช้งาน Schema เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดในการจัดอันดับ SEO

ทำความรู้จักกับ Schema และ Structured Data

ก่อนที่เราจะเข้าสู่การใช้งาน Schema และ Structured Data ใน WordPress และ AMP มาทำความเข้าใจกันก่อนว่า Schema คืออะไรและทำไมมันถึงสำคัญสำหรับ SEO

Schema Markup คืออะไร?

Schema Markup เป็นรูปแบบของ structured data ที่ใช้ในการบอกเครื่องมือค้นหาว่าข้อมูลบนเว็บไซต์ของคุณเกี่ยวข้องกับอะไร เช่น บทความ, ข่าว, ผลิตภัณฑ์, ที่อยู่, หรือแม้แต่เวลาในการฉายภาพยนตร์ ซึ่งการใช้ Schema Markup จะทำให้ข้อมูลเหล่านี้สามารถแสดงผลในรูปแบบที่ดีกว่าและสวยงามในหน้า Search Result ของ Google

Schema Markup ใช้โค้ด JSON-LD ที่ช่วยให้เครื่องมือค้นหาสามารถเข้าใจข้อมูลในเว็บไซต์ได้ดีขึ้น โดยการแสดงผลในรูปแบบ Rich Snippets หรือแม้กระทั่ง Knowledge Graph

ทำไมการใช้ Schema จึงสำคัญสำหรับ SEO?

การใช้ Schema ช่วยให้เว็บไซต์ของคุณมีโอกาสที่จะแสดงผลในรูปแบบที่ดีกว่าในหน้าผลการค้นหาของ Google ซึ่งสามารถดึงดูดผู้ค้นหาให้คลิกเข้ามาที่เว็บไซต์ของคุณได้มากขึ้น ตัวอย่างของผลลัพธ์ที่มี Rich Snippets ได้แก่ ผลลัพธ์ที่มีรูปภาพ, การให้คะแนน (Rating), หรือเวลาในการฉายภาพยนตร์

ในทางกลับกัน การไม่มี Schema Markup อาจทำให้เว็บไซต์ของคุณไม่สามารถแสดงผลในรูปแบบ Rich Snippets และอาจทำให้คุณพลาดโอกาสในการเพิ่มคลิกจากผู้ใช้

วิธีการใช้ Schema ใน WordPress

การเพิ่ม Schema Markup ในเว็บไซต์ WordPress สามารถทำได้หลากหลายวิธี ทั้งการใช้ Plugin หรือการเพิ่มโค้ด Schema ด้วยตัวเองในแต่ละหน้าเว็บไซต์ ซึ่งแต่ละวิธีมีข้อดีที่แตกต่างกันไป

การใช้ Plugin เพื่อเพิ่ม Schema ใน WordPress

วิธีที่ง่ายที่สุดในการเพิ่ม Schema ในเว็บไซต์ WordPress คือการใช้ Plugin ที่รองรับ Schema เช่น Yoast SEO, Rank Math, และ Schema Pro ซึ่งจะช่วยเพิ่ม Schema ให้กับเว็บไซต์ของคุณโดยอัตโนมัติ

Yoast SEO

หากคุณใช้ Yoast SEO, ตัว Plugin นี้มีการรองรับ Schema Markup โดยอัตโนมัติและสามารถปรับแต่งได้ใน Search Appearance ของ Yoast SEO ซึ่งคุณสามารถเลือกประเภทของ Schema ที่จะใช้ เช่น Article, Product, WebPage, หรือ LocalBusiness

Rank Math

Rank Math เป็นอีกหนึ่ง Plugin ที่มีฟีเจอร์ในการเพิ่ม Schema Markup ให้กับเว็บไซต์ WordPress โดยสามารถเลือก Schema ที่ต้องการใช้ได้จากการตั้งค่าใน Plugin

Schema Pro

Schema Pro เป็น Plugin ที่มีฟีเจอร์ที่พัฒนาไว้เพื่อเพิ่ม Schema Markup อัตโนมัติให้กับเว็บไซต์ทั้งหมด คุณสามารถเลือกประเภทของ Schema ที่ต้องการใช้งานได้ง่ายดายและไม่ต้องเขียนโค้ดเอง

การเพิ่ม Schema แบบ Manual ใน WordPress

หากคุณต้องการเพิ่ม Schema Markup ด้วยตัวเอง, คุณสามารถใช้โค้ด JSON-LD ในส่วนหัวของหน้า (Header) หรือในเนื้อหาของแต่ละโพสต์ ตัวอย่างของโค้ด Schema สำหรับบทความจะมีลักษณะดังนี้:

{
   "@context": "https://schema.org",
   "@type": "Article",
   "headline": "ชื่อบทความ",
   "author": {
     "@type": "Person",
     "name": "ชื่อผู้เขียน"
   },
   "publisher": {
     "@type": "Organization",
     "name": "ชื่อองค์กร",
     "logo": {
       "@type": "ImageObject",
       "url": "URL ของโลโก้"
     }
   },
   "datePublished": "2025-02-28"
}

การใช้ Schema ใน AMP (Accelerated Mobile Pages)

การใช้ AMP หรือ Accelerated Mobile Pages ช่วยให้เว็บไซต์ของคุณโหลดเร็วขึ้นบนอุปกรณ์มือถือ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในยุคที่ผู้คนใช้มือถือในการค้นหาข้อมูล โดยการเพิ่ม Schema Markup ใน AMP จะช่วยเพิ่มการมองเห็นในผลการค้นหาของ Google และทำให้เว็บไซต์ของคุณมีความน่าสนใจมากขึ้น

วิธีเพิ่ม Schema ใน AMP

เมื่อคุณใช้ AMP Plugin ใน WordPress, AMP จะช่วยเพิ่ม Schema โดยอัตโนมัติสำหรับหน้า AMP ของคุณ แต่คุณสามารถปรับแต่งและเพิ่ม Schema ด้วยโค้ด JSON-LD ในส่วน <head> ของหน้า AMP ได้

<script type="application/ld+json">
   {
     "@context": "https://schema.org",
     "@type": "Article",
     "headline": "ชื่อบทความ",
     "author": {
       "@type": "Person",
       "name": "ชื่อผู้เขียน"
     },
     "datePublished": "2025-02-28"
   }
</script>

การตรวจสอบการทำงานของ AMP

หลังจากที่คุณเพิ่ม Schema ในหน้า AMP แล้ว, คุณสามารถตรวจสอบการทำงานของ AMP ได้โดยใช้ AMP Test ของ Google เพื่อให้แน่ใจว่า AMP ของคุณทำงานได้ถูกต้องและไม่มีปัญหาในการแสดงผล

เครื่องมือสำหรับตรวจสอบ Schema

การตรวจสอบว่า Schema ของคุณทำงานได้ถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญ เพราะการที่ Schema ไม่ทำงานหรือไม่สมบูรณ์อาจทำให้การแสดงผลใน Google Search ถูกลดทอนความน่าสนใจลงได้

Rich Results Test ของ Google

Google มีเครื่องมือ Rich Results Test ที่ช่วยให้คุณสามารถตรวจสอบว่า Schema Markup ของเว็บไซต์ทำงานได้ถูกต้องหรือไม่ เครื่องมือนี้จะบอกคุณว่าเว็บไซต์ของคุณรองรับ Rich Snippets หรือไม่ และหากมีข้อผิดพลาดจะบอกคุณว่าเกิดปัญหาที่ใด

AMP Test

หากคุณใช้ AMP, เครื่องมือ AMP Test จาก Google จะช่วยให้คุณตรวจสอบว่าเว็บไซต์ AMP ของคุณสามารถทำงานได้อย่างถูกต้องหรือไม่ การทดสอบนี้จะช่วยให้คุณมั่นใจว่าเว็บไซต์ของคุณมีการแสดงผลที่ถูกต้องบนอุปกรณ์มือถือ

สรุป

การใช้ Schema Markup และ Structured Data ในเว็บไซต์ WordPress และ AMP เป็นกลยุทธ์ที่สำคัญในการปรับปรุง SEO ของเว็บไซต์ โดยการเพิ่ม Schema ให้กับเว็บไซต์ของคุณจะช่วยให้ Google และเครื่องมือค้นหาอื่นๆ สามารถเข้าใจเนื้อหาของคุณได้ดีขึ้น และทำให้เว็บไซต์ของคุณปรากฏในผลการค้นหาที่มี Rich Snippets ซึ่งสามารถดึงดูดผู้ใช้งานได้มากขึ้น

ไม่ว่าคุณจะใช้ Plugin หรือเพิ่ม Schema ด้วยตัวเอง, สิ่งสำคัญคือการตรวจสอบให้แน่ใจว่า Schema ของคุณทำงานได้ถูกต้องและมีผลต่อ SEO อย่างเต็มที่ อย่าลืมใช้เครื่องมือทดสอบของ Google เพื่อตรวจสอบการทำงานของ Schema และ AMP ของคุณ เพื่อให้เว็บไซต์ของคุณพร้อมสำหรับการเข้าถึงผู้ใช้งานและการจัดอันดับใน Google ได้ดีที่สุด

แท็กที่เกี่ยวข้อง

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *